วันอังคารที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2561

1.มัสยิด 300 ปี ตะโละมาเนาะ

มัสยิด 300 ปี ตะโละมาเนาะ

7 สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตในนราธิวาส ที่ต้องไปให้ได้



          มัสยิด 300 ปี บ้านตะโละมาเนาะ ตำบลลุโบะสาวอ ห่างจากจังหวัดนราธิวาส เป็นระยะทาง 25 กิโลเมตร ตามทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 42 แล้วแยกที่บ้านบือราแง ห่างจากตัวอำเภอบาเจาะ ประมาณ 4 กิโลเมตร แยกจากถนนสายปัตตานี-นราธิวาสก่อนถึงอำเภอยังมีทางแยกขวาไปถึงมัสยิดสร้างด้วยไม้ตะเคียนทั้งหลัง ตั้งตระหง่านมากว่า 300 ปี ใช้สลักไม้ยึดหลักแทนตะปู หรือสกรูเหล็ก

รูปทรงของอาคารเป็นแบบไทยพื้นเมืองประยุกต์เข้ากับศิลปะจีน และมลายูออกมาได้ลงตัว ส่วนเด่นที่สุดของอาคาร คือ เหนือหลังคาจะมีฐานมารองรับจั่วบนหลังคาอยู่ชั้นหนึ่ง ส่วนหออาซานซึ่งมีลักษณะเป็นเก๋งจีน ก็ตั้งอยู่บนหลังคาส่วนหลัง ฝาเรือนใช้ไม้ทั้งแผ่นแล้วเจาะหน้าต่าง ส่วนช่องลมแกะเป็นลวดลาย ใบไม้ ดอกไม้สลับลายจีน  ปัจจุบันมัสยิดนี้ยังใช้เป็นสถานประกอบศาสนกิจของชาวมุสลิม หากต้องการเข้าชมภายในต้องได้รับอนุญาตจากโต๊ะอิหม่ามประจำหมู่บ้าน โดยทั่วไปเข้าชมได้บริเวณภายนอกเท่านั้น นอกจากนั้นหมู่บ้านตะโละมาเนาะในอดีตยังเป็นแหล่งผลิตคัมภีร์อัลกุรอานที่เขียนด้วยมือ

มัสยิด 300 ปี จังหวัดนราธิวาส โดดเด่นด้วยสถาปัตกรรมอาคารไม้ตะเคียนทั้งหลัง
ผสมผสานศิลปะไทย จีน และมลายูเข้าด้วยกันอย่างมีเอกลักษณ์ สถานที่อันเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์
วัฒนธรรมทางศาสนา และมีสถาปัตยกรรมอันสะท้อนความหลากหลายทางวัฒนธรรมของพื้นที่
ผ่านกาลเวลามายาวนานนับร้อยปี

มัสยิด 300 ปี

มัสยิด 300 ปี หรือมัสยิดวาดีอัลฮูเซ็น เป็นมัสยิดเก่าแก่ ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านตะโละมาเนาะ
ชาวบ้านทั่วไปบ้างก็เรียกว่า มัสยิด 200 ปี หรือมัสยิดตะโละมาเนาะ จากคำบอกเล่าของชาวบ้าน
ประวัติของมัสยิดแห่งนี้สร้างมาแล้ว 3 ชั่วอายุคน โดยนายวันฮูเซ็น อัส-ซานาวี ผู้อพยพมาจากบ้านสะนอยานยา จ.ปัตตานี
เป็นผู้สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2167 ก่อสร้างจากไม้ตะเคียนทั้งหลัง โดยใช้สลักไม้แทนตะปูหรือสกรู
การก่อสร้างในสมัยนั้นไม่มีเครื่องมือช่าง จำพวกเลื่อย ขวาน สิ่ว จึงนิยมใช้บือจือตา (รูปร่างคล้ายขวาน)
เพื่อตัดไม้ ใช้บันลีโยง (ลิ่ม) เพื่อผ่าไม้ และใช้บายิ (รูปร่างคล้ายจอบ) เพื่อถากไม้ให้เรียบ

มัสยิด 300 ปี

สถาปัตยกรรมของมัสยิด 300 ปี สร้างแบบศิลปะไทยพื้นเมืองประยุกต์ ผสมผสานศิลปะแบบจีน และมลายู
เป็นอาคาร 2 หลังติดกัน มีเสาไม้ 26 ต้น เสามีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมขนาด 10X10 นิ้ว พื้นหนา 2 นิ้ว
ฝาประกบหน้าต่างทำด้วยไม้ทั้งแผง แกะสลักเป็นลวดลายต่างๆ จุดเด่นอยู่ที่โครงสร้างหลังคาทั้ง 2 หลัง
ซึ่งมีความแตกต่างกัน โดยมัสยิดหลังแรก มีหลังคาทั้งหมด 3 ชั้น มุงด้วยกระเบี้องดินเผา
หลังคาชั้นที่ 3 มีโดมเป็นเก๋งจีนอยู่บนหลังคา เป็นศิลปะแบบจีนแท้ เสาแกะสลักเป็นรูปดอกพิกุล
ในสมัยนั้นเก๋งจีนจะใช้เป็นหออาซาน (สำหรับตะโกนเรียกคนมาละหมาด)
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์
ที่มา: https://sites.google.com/site/kitttsakthank/directory
ภาพ: ไฟล์อินเทอร์เน็ต

เครดิตภาพ : pantip และ blogspot

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น